ที่เห็นอยู่นี้ คือ ภาพทางช้างเผือกทอดยาวพาดผ่านขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปจนถึงขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงค่ำของเดือนตุลาคม ราวกับเป็นสะพานเชื่อมต่อทั้งสองขอบฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวจุดเล็กๆ นับร้อยนับพันที่เก็บเรื่องราวของเอกภพในอดีตเอาไว้
ภาพนี้ใช้เทคนิคการถ่ายแบบ Panorama เริ่มถ่ายจากใจกลางทางช้างเผือก (ด้านซ้ายของภาพ) เป็นภาพแรก เนื่องจากจะเป็นบริเวณที่ตกลับขอบฟ้าก่อน จากนั้น ค่อยๆ ขยับกล้องไปทางขวาและจัดมุมให้ภาพคร่อมกันกับมุมเดิมอย่างน้อยครึ่งภาพ เพื่อให้สามารถนำภาพมาต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ถ่ายไปเรื่อยๆจนสุดที่ปลายทางช้างเผือกอีกด้าน และนำภาพไปต่อกันด้วยโปรแกรม Photoshop
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงในการถ่ายภาพทางช้างเผือกให้ครบตลอดแนว คือ ต้องเลือกสถานที่เปิดโล่ง รอบทิศทางและและไม่มีแสงไฟรบกวน ดังเช่นภาพนี้ถ่าย ณ ยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ หนึ่งในพื้นที่ที่มีทัศนวิสัยท้องฟ้าดีที่สุดในประเทศไทย ค่อนข้างมืดสนิทและไม่มีแสงไฟรบกวน
หากใครที่กำลังตามหาสถานที่สำหรับถ่ายภาพทางช้างเผือกหรือทางดาราศาสตร์ใกล้บ้าน สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย https://darksky.narit.or.th และสำหรับใครที่มีภาพถ่ายดาราศาสตร์สวย ๆ โค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “มหัศจรรย์ภาพถ่ายดาราศาสตร์” ประจำปี 2565 ชิงเงินรางวัลเงินสดรวมมูลค่ากว่า 160,000 บาท สมัครและส่งผลงานได้ทาง https://apps.narit.or.th/ ถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 เท่านั้นครับ
เรื่อง/ภาพ : ศิวรุต พลอยแดง – เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.