![](https://darksky.narit.or.th/wp-content/uploads/2021/10/213041050_4347019578694956_8769651130015589155_n-1024x683.jpeg)
1. Natural Bridges Monument National Park, U.S.A
อุทยานประวัติศาสตร์สะพานธรรมชาติ ตั้งอยู่ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานท้องฟ้ามืดสากลแห่งแรกของโลก ในปี ค.ศ. 2007 มีความโดดเด่นทั้งคุณภาพท้องฟ้าที่มืดสนิทเวลากลางคืน และกิจกรรมปีนเขา ตั้งแคมป์ที่บริการในเวลากลางวัน ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 100,000 คนต่อปี
![](https://darksky.narit.or.th/wp-content/uploads/2021/10/214109959_4347020332028214_1595749636462415998_n-1024x724.jpeg)
2. NamibRand Nature Reserve, Namibia
เขตอนุรักษ์นามิเบีย ในประเทศนามิเบีย เป็นหนึ่งในเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดสากล ในปี ค.ศ. 2012 เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ สิ่งมีชีวิตและความมืดของท้องฟ้าในพื้นที่ทะเลทรายนามิบ ปัจจุบัน เขตอนุรักษ์นามิเบียมีความโดดเด่นในการจัดกิจกรรมเรียนรู้ทางธรรมชาติตลอดทั้งเวลากลางวันและกลางคืน มีสถานที่เปิดโล่งที่ที่นักท่องเที่ยวนอนค้างคืนและชมทางช้างเผือกได้ตลอดทั้งคืน
![](https://darksky.narit.or.th/wp-content/uploads/2021/10/215242958_4347020605361520_5448356060772549457_n-1024x407.jpeg)
3. Gabriela Mistral Dark Sky Sanctuary, Elqui Valley
กาบริเอลา มิสตรัล ตั้งอยู่ในหุบเขาเอลกี ทางตอนเหนือของประเทศชิลี ด้วยสภาพอากาศ ตำแหน่งที่ตั้ง และความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ทำให้ Gabriela Mistral Dark Sky Sanctuary เป็นหนึ่งในเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดที่ดีที่สุดในโลก มีความพร้อมสำหรับการสังเกตการณ์และศึกษาทางดาราศาสตร์ ปัจจุบันเป็นพื้นที่ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์สำหรับงานวิจัยทางดาราศาสตร์เป็นจำนวนมาก
![](https://darksky.narit.or.th/wp-content/uploads/2021/10/213359924_4347020758694838_5818126069053500784_n-1024x535.jpeg)
4. Iriomote-Ishigaki National Park, Japan
อุทยานแห่งชาติอิริโอโมเตะ-อิชิกาคิ อยู่บนเกาะขนาดใหญ่แถบใต้สุดของญี่ปุ่น ในจังหวัดโอกินาวะ อุดมไปด้วยพืชเขตร้อนนานาชนิด ธรรมชาติที่สมบูรณ์ สัตว์สายพันธุ์ท้องถิ่น แนวปะการังสวยงามขนาดใหญ่ และมีความมืดของท้องฟ้าที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้อุทยานแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดสากลแห่งแรกของญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018
![](https://darksky.narit.or.th/wp-content/uploads/2021/10/212758092_4347021608694753_4966605412244112963_n-795x1024.jpeg)
5. Aoraki Mackenzie, New Zealand
อาโอรากิ แมคเคนซี เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดสากลในนิวซีแลนด์ นอกจากความพิเศษของแสงดาวภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท แสงออโรราในช่วงหน้าหนาวก็เป็นอีกจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปชมความสวยงามอย่างต่อเนื่อง การันตีด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 500,000 คนต่อเดือน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดูดาวสุดฮอตของโลกที่ใคร ๆ ก็นึกถึง ยิ่งหากเป็นนักดูดาวไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
![](https://darksky.narit.or.th/wp-content/uploads/2021/10/209377070_4347021782028069_4427593089238451662_n-819x1024.jpeg)
6. Brecon Beacons National Park, Wales
เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดทางตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ในเขตประเทศเวลส์ สถานที่แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและไกลสุดลูกหูลูกตา อุทยานแห่งชาติเบรคอนบีคอนส์ ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดสากลในปี ค.ศ. 2013 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถสังเกตเห็นทางช้างเผือก กาแล็กซีแอนโดรเมดราได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน
![](https://darksky.narit.or.th/wp-content/uploads/2021/10/214549884_4347021988694715_5338337054805471944_n-1024x542.jpeg)
7. Death Valley National Park, U.S.
อุทยานแห่งชาติเดธวัลเลย์ ในสหรัฐอเมริกา ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในปี 2013 เป็นดินแดนสุดขั้วที่ไม่เหมือนใครในโลก ด้วยสภาพอากาศร้อนแห้งของทะเลทราย แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ท้องฟ้าในอุทยานแห่งชาติเดธวัลเลย์มีทัศนวิสัยที่ดีมาก เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ดูดาวและถ่ายภาพทางดาราศาสตร์
_______________________________________________________